ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีแบ่งออกได้ 2 ลักษณะเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้น คือ ตลาดช่วงขาขึ้น หรือที่รู้จักกันดีว่า ตลาดกระทิง (Bull Market) และตลาดช่วงขาลง หรือตลาดหมี (Bear Market)

สาเหตุที่เปรียบตลาดขาขึ้นและขาลง โดยใช้ตัวแทนสัญลักษณ์เป็นกระทิงและหมี เนื่องจากลักษณะท่าทางการต่อสู้ และพฤติกรรมการโจมตีเหยื่อของมัน โดยกระทิงจะขวิดขึ้น เปรียบเสมือนราคาที่ทะยานขึ้น ในขณะที่หมีจะใช้มือตะปบลง ซึ่งก็เหมือนราคาที่ร่วงลงมานั่นเอง


ลักษณะของตลาดกระทิง

ตลาดกระทิง (กระทิงขวิด) หมายถึงช่วงเวลาที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะซื้อเพื่อทำกำไร โดยนักลงทุนจะมีความต้องการซื้อมากกว่าความต้องการขาย ลักษณะตลาดเช่นนี้นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับสูง และราคาก็จะเพิ่มสูงตามขึ้นไปด้วย ดังนั้นหากเราเริ่มเห็นว่าราคาในตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจเป็นสัญญาณว่านักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมีความมั่นใจว่าราคาของเหรียญนั้น ๆ จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิง นั่นเอง

การที่นักลงทุนเชื่อว่าราคาจะยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงเปรียบเสมือน “กระทิง” ที่ดุดันในตลาด อันส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้เพิ่มมากขึ้นด้วย วงจรเชิงบวกจึงเกิดขึ้น และมีแนวโน้มที่จะดึงเม็ดเงินการลงทุนเข้ามามากขึ้น ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน


ตลาดกระทิงจะสิ้นสุดเมื่อใด

ถึงแม้ว่าตลาดกระทิงจะเป็นช่วงขาขึ้นของตลาด แต่ก็มักจะมีความผันผวนของราคา และมีการปรับตัวขึ้น-ลง จนเกิดการสร้างฐานราคาใหม่ในตลาดอยู่เสมอ จนอาจทำให้เราเผลอตีความแบบผิด ๆ ไปได้ว่า การเคลื่อนไหวของราคาที่ต่ำลงในระยะสั้น ๆ นั้นเป็นจุดสิ้นสุดของตลาดกระทิงแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นความจริง หรือไม่ก็ได้ และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงควรพิจารณาสัญญาณต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดแนวโน้มการกลับตัว จึงควรมองกรอบการเคลื่อนไหวของราคาจากมุมมองที่กว้างขึ้นในช่วงเวลาที่นานขึ้นเป็นปัจจัยประกอบในการตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ตลาดกระทิงคงไม่สามารถอยู่ได้ยาวนานตลอดไป เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มถดถอย ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยกระตุ้นในตลาด เช่น ข่าวการออกกฎหมายที่ไม่เอื้ออำนวย หรือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่นการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือสงครามยื้ดเยื้อที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซีย และยูเครนในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อราคา และการซื้อขายโดยรวมในตลาดแทบทั้งสิ้น ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็วนั้นสามารถส่งผลให้เกิดตลาดหมี ซึ่งนักลงทุนจำนวนมากมีความเชื่อมั่นว่าราคาจะลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาเหรียญในตลาดปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว และนักลงทุนก็จะเทขายสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงและการขาดทุนในอนาคตเช่นเดียวกัน


แล้วตลาดหมีคืออะไร?

ตลาดหมีมักจะหมายความถึง ช่วงเวลาที่ตลาดมีความต้องการขายมากกว่าความต้องการซื้อ เป็นสภาวการณ์ที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่ำ และราคามีแนวโน้มลดลง ซึ่งนักลงทุนที่เชื่อว่าราคาที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องนั้นเปรียบได้กับ “หมี” สำหรับการซื้อขายในตลาดหมีนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่อาจคิดว่าเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ เนื่องจากถือเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ว่าตลาดหมีจะสิ้นสุดลงเมื่อใดและราคาจะลงไปต่ำสุดที่จุดไหน ทั้งนี้เนื่องจากการดีดตัวกลับเป็นขาขึ้นของราคามักจะช้าและคาดเดาได้ยาก ซึ่งอาจเป็นผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจ จิตวิทยาของนักลงทุน หรือข่าวสารและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นต้น

อย่างไรก็ตามตลาดหมีก็เป็นช่วงเวลาที่ถือว่าเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากกลยุทธ์การลงทุนของเราเป็นการลงทุนแบบระยะยาว การซื้อในช่วงตลาดหมีอาจให้ผลตอบแทนได้ดีเมื่อราคาปรับขึ้นในอนาคตตามรอบของตลาด นอกจากนี้นักลงทุนอาจซื้อขายและลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ ด้วยการหมั่นสังเกตการพุ่งขึ้นของราคาหรือการปรับฐานใหม่ ๆ อยู่เสมอ สำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงก็สามารถเลือกทำกำไรจากการขายในระยะเวลาสั้น ๆ (Short Selling) ได้อีกด้วย อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เป็นที่นิยมในการลงทุนช่วงตลาดหมีก็คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ซึ่งเป็นวิธีที่นักลงทุนจะลงทุนเป็นเงินตามจำนวนที่ตั้งไว้เป็นประจำตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เช่น กำหนดว่าจะลงทุน 1,000 บาทในทุก ๆ สัปดาห์ โดยไม่คำนึงว่าสินทรัพย์นั้นจะมีราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร วิธีนี้จะเป็นการกระจายความเสี่ยงและช่วยให้เราสามารถลงทุนในภาวะตลาดกระทิงหรือตลาดหมีได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน


เราสามารถเริ่มลงทุนในตลาดกระทิง หรือตลาดหมี ได้ตั้งแต่วันนี้ เพียงเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มที่คุณชื่นชอบ เช่น เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) และใบอนุญาตผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Dealer) จากกระทรวงการคลัง ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยให้บริการนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนในการซื้อขายและการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมาตรฐานระดับโลก ที่พร้อมสร้างความมั่นใจในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย