กระแสคริปโทเคอร์เรนซีทำให้เราได้รู้จักเหรียญมากหน้าหลายตา อย่างเช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Tezos (XTZ), Cardano (ADA) รวมถึงเหรียญที่เป็นกระแสร้อนแรงอย่างเหรียญหมาชิบะ Shiba Inu (SHIB) ที่มีมูลค่าการซื้อขายพุ่งแรงจนติดอันดับ Top 10 ของเหรียญที่มี Market Cap สูงที่สุดในเดือนตุลาคม 2564

แต่ด้วยความผันผวนของราคาเหรียญเหล่านี้ ทำให้หลายๆ คนคิดว่า คริปโทเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจนไม่กล้าลงทุน แต่จริงๆ แล้ว ในโลกคริปโทยังมีเหรียญประเภท Stablecoin หรือแปลตรงๆ ก็คือเหรียญที่มั่นคง หรือเหรียญที่ถูกอ้างอิงมูลค่ากับสินทรัพย์หรือเงินสกุลใดสกุลหนึ่งอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่า Stablecoin จะไม่มีความผันผวนเลย เพราะเหรียญเหล่านี้ยังถูกอ้างอิงมูลค่าตามสินทรัพย์หรือสกุลเงินซึ่งมีความผันผวนอยู่เช่นกัน

โดย Stablecoin สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. Fiat-backed Stablecoin

Stablecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่อ้างอิงมูลค่าเงินที่ออกโดยรัฐบาลหรือข้อกฎหมาย อย่างสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์ ยูโร ในอัตราส่วน 1:1 ยกตัวอย่างเช่น USDT หรือ Tether เป็น Stablecoin ที่มีการใช้งานเป็นอันดับหนึ่งในโลกคริปโท มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเหรียญดิจิทัลที่มีอัตราส่วนใกล้เคียงเงินดอลลาร์ โดยนำสินทรัพย์ที่มีมูลค่า 1 ดอลลาร์มาวางค้ำประกันไว้ในอัตราส่วน 1 : 1 (USDT : ดอลลาร์)

อีกหนึ่ง Stablecoin ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ USDC ซึ่งเป็น Stablecoin ที่อยู่บน Ethereum Blockchain โดยมีมูลค่าการใช้งานรองจาก USDT เท่านั้น ใช้อ้างอิงมูลค่าของโทเคนกับดอลลาร์สหรัฐในอัตราส่วน 1 USDC : 1 ดอลลาร์ เช่นเดียวกันกับ USDT

2. Asset-backed Stablecoin

Stablecoin ที่อ้างอิงมูลค่ากับสินทรัพย์ต่างๆ โดยสินทรัพย์ที่ใช้ในการรองรับนั้นสามารถเป็นได้ทั้ง ทองคำ ที่ดิน หุ้น หรือกองทุนต่างๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการอ้างอิงมูลค่ากับสินทรัพย์แล้ว Asset-backed Stablecoin ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าที่ควร เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายและหลักเกณฑ์ในแต่ละประเทศอาจส่งผลให้สินทรัพย์ที่นำมาใช้อ้างอิงนั้นมีมูลค่าแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น หุ้น หรือกองทุน เป็นต้น

Asset-backed Stablecoin ที่มีชื่อเสียงตัวนึงคือ Digix Gold (DGX) โดยเป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าอ้างอิงตามทองคำ 1 กรัม ต่อ 1 DGX โดย Digix.io เป็นผู้ตรวจสอบความปลอดภัยและเก็บรักษาทองคำไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนที่ซื้อเหรียญ Digix Gold ยังสามารถนำเหรียญ DGX ไปแลกเป็นทองคำได้จริงที่ประเทศสิงคโปร์อีกด้วย

3. Algorithmic Stablecoin

Stablecoin ที่ไม่ได้อ้างอิงมูลค่ากับเงินทั่วไป หรือสินทรัพย์ใดๆ แต่ประยุกต์การใช้กลไกของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ในการเทียบมูลค่าให้เท่ากับสกุลเงินต่างๆ ที่อยู่ใน Blockchain เพื่อกำหนดมูลค่าของเหรียญให้คงที่เสมอ ซึ่งค่อนข้างมีความซับซ้อนมากกว่า Stablecoin ประเภท Fiat-backed และ Asset-backed เป็นอย่างมาก ตัวอย่างของ Algorithmic Stablecoin ได้แก่ $MIM (Magic Internet Money) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ใช้หลักการ Arbitrage หรือการใช้กลไกตลาดตรึงราคาเหรียญไว้ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Abracadabra (Lending Protocol) ที่จะอนุญาตให้ผู้ฝากนำสินทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยมาค้ำประกันเพื่อกู้เหรียญ $MIM นั่นเอง